Friday, February 5, 2016

ประกันสุขภาพ (Health Insurance)

ประกันสุขภาพคืออะไร มีกี่ประเภท

การทำประกันสุขภาพ เป็นการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตของเรา โดยการกระจายความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น จากความเจ็บป่วย และการเสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บของเรา ไปให้แก่ผู้รับประกัน

โดยเราจะมีการจ่ายค่าตอบแทน เป็นเบี้ยประกันจำนวนหนึ่ง เพื่อให้เราได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง ตลอดอายุสัญญาที่ตกลงกันเอาไว้

เพราะฉะนั้นแล้ว ประกันสุขภาพ เป็นหนึ่งในประกันที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ และทำกันเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับเรา ว่าเมื่อเจ็บป่วย เราจะต้องได้รับการรักษาที่ดี และยังคงมีรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่กระทบกับเงินส่วนอื่นๆ


ความหมายของประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพ มีความหมายว่า การจ่ายเงินทดแทน หรือการจ่ายค่าสินไหมจำนวนหนึ่ง ให้แก่ผู้เอาประกันไว้ใช้จ่าย ในการเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่ายา ค่าบริการ

ซึ่งการจ่ายเงินเหล่านี้ จะครอบคลุมตั้งแต่ การเจ็บป่วยที่เกิดจากโรคภัยต่างๆ ไปจนถึงอาการบาดเจ็บต่างๆ เนื่องมาจากอุบัติเหตุ ตามลักษณะการคุ้มครองที่เราเลือกเอาไว้


ประเภทของการประกันสุขภาพ


การประกันสุขภาพจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ก็คือ

1. การประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ แบบรายบุคคล

2. การประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ แบบรวมกลุ่ม


โดยประกันสุขภาพ จะมีการแบ่งลักษณะการคุ้มครองออกเป็น 7 หมวดด้วยกัน คือ


1. กรณีที่ผู้เอาประกัน ต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

ในฐานะของคนไข้ประจำโรงพยาบาล โดยไม่น้อยไปกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะเกิดเนื่องมาจากการเจ็บไข้ได้ป่วย หรืออุบัติเหตุก็ตาม

ทางผู้รับประกันจะต้องมีการจ่ายค่าชดเชย โดยแบ่งออกเป็น ค่ายา ค่านอนโรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายจากการบาดเจ็บ ค่าอาหาร และค่าบริการทั่วไป

2. กรณีที่ผู้เอาประกันจะต้องได้รับการผ่าตัด

ผู้รับประกันจะต้องมีการจ่ายความคุ้มครอง อันเนื่องมาจากค่ารักษาการผ่าตัด รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของการเข้าปรึกษาแพทย์ร่วมด้วย


3. กรณีที่ผู้เอาประกันจะต้องเข้ารับการรักษาฟัน

ผู้รับประกันจะมีการจ่ายค่าชดเชย ในส่วนของค่ารักษาพยาบาล และค่าบริการทางทันตแพทย์ด้วย


4. กรณีที่ผู้เอาประกันมีการคลอดบุตร

ผู้รับประกันจะต้องมีการจ่ายค่าชดเชย กรณีที่ผู้เอาประกันต้องนอนรักษาตัว อยู่ในโรงพยาบาลเพื่อรอการคลอด


5. กรณีที่ผู้เอาประกันเข้ารับการรักษา ที่ไม่ใช่ในโรงพยาบาล

เช่น คลินิกหรือหน่วยพยาบาลขนาดเล็ก รวมไปถึงส่วนของผู้ป่วยนอก ผู้รับประกันจะต้องมีการจ่ายค่าชดเชย สำหรับค่ารักษาและค่าบริการทางการแพทย์


6. กรณีที่ผู้เอาประกัน จำเป็นจะต้องได้รับการดูแลจากแพทย์

ผู้รับประกันจะต้องจ่ายค่าชดเชย หรือค่าบริการทางการแพทย์ให้


7. กรณีที่ผู้เอาประกัน จำเป็นจะต้องได้รับการดูแลจากพยาบาลพิเศษ

ซึ่งอาจจะมีการดูแลกันภายในโรงพยาบาล หรืออยู่ที่บ้าน ผู้รับประกันก็จะต้องเป็นผู้จ่ายค่าชดเชย ในส่วนของค่าบริการและค่ารักษาพยาบาลให้


ดังนั้น ใครที่กำลังมองหาประกันสุขภาพอยู่ ก็ควรจะพิจารณาเลือกให้เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด ก็จะช่วยให้เราสามารถได้รับค่าชดเชยในส่วนต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดนั่นเอง

Key: ประกันสุขภาพ , health insurance

แหล่งข้อมูล
http://www.insuranceth.com/ประกันสุขภาพ

No comments:

Post a Comment