โรคเลือดออกในสมองมีอันตรายต่อชีวิตหรือไม่ อาการเป็นอย่างไร และการป้องกันโรคนี้จะต้องทำอย่างไรบ้าง
โดย : นพ.ประจักษ์ ศรีรพีพัฒน์
โรคเลือดออกในสมอง เป็นโรคที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน พบมากในผู้ที่มีอายุ ๔๐ ปีขึ้นไป และผู้ชายมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้หญิงประมาณ ๒-๓ เท่า
โรคนี้จัดเป็นกลุ่มหนึ่งของโรคหลอดเลือดสมองร่วมกับโรคสมองขาดเลือด
สาเหตุหลักมาจากภาวะความเสื่อมของหลอดเลือดสมองจากอายุที่มากขึ้นร่วมกับโรคประจำตัว ที่สำคัญคือ โรคความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่เป็นเวลานาน ภาวะแข็งตัวของเลือดบกพร่องรวมถึงการใช้ยาป้องกันเลือดแข็งตัวบางชนิด แต่ในปัจจัยทั้งหลาย อายุที่มากขึ้นร่วมด้วยโรคความดันโลหิตสูงเป็นเวลานาน ยังคงเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคนี้
อาการของโรคเลือดออกในสมอจะมีลักษณะสำคัญคือ เฉียบพลันและรุนแรง
อาการเฉียบพลันที่สังเกตได้ เช่น ปวดศีรษะรุนแรง เฉียบพลัน มักมีอาการร่วมคือ คลื่นไส้ อาเจียน ชัก หรือกระทั่งหมดสติ อ่อนแรง อัมพาต หรือปากเบี้ยวฉับพลัน ชาเฉียบพลัน พูดลำบากฉับพลัน ตามัวมองไม่เห็นเฉียบพลัน เสียการทรงตัว และบ้านหมุนวิงเวียนเฉียบพลัน
หากสงสัยว่าตนเองหรือคนใกล้ตัวมีอาการข้างต้น ให้พบแพทย์ด่วน เพราะก้อนเลือดในสมองอาจทำให้แรงดันในโพรงกะโหลกศีรษะสูง เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ผู้ป่วยจะซึมลงจนหมดสติ หรือก้อนเลือดกดเบียดบริเวณสำคัญ เช่น ก้านสมอง ทำให้อาการทรุดลงรวดเร็ว
นอกจากนี้ ก้อนเลือดอาจทำลายเนื้อสมองที่สำคัญโดยตรง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการมากขึ้นได้ ดังนั้น การรักษาผู้ป่วยอย่างเร่งด่วนจึงเป็นสิ่งจำเป็น อาจต้องใช้การผ่าตัดเพื่อนำก้อนเลือดออก หรือใช้ยาลดแรงดันในโพรงกะโหลกศีรษะ ลดสมองบวม ทั้งนี้ขึ้นกับขนาด ตำแหน่ง และความรุนแรงของโรคที่ผู้ป่วยเป็นอยู่
โรคเลือดออกในสมอง ไม่มีวิธีรักษาใดจะดีกว่าการป้องกัน กล่าวคือ เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ต้องระวังควบคุมรักษาโรคความดันโลหิตสูงให้เคร่งครัด ลดปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น หยุดสูบบุหรี่ โรคนี้นับเป็นภัยเงียบที่ก่อให้เกิดอันตราย การมีความรู้ความเข้าใจจึงมีความสำคัญ
Key: เลือดออกในสมอง
แหล่งข้อมูล
https://www.doctor.or.th/ask/detail/15497
No comments:
Post a Comment